จับตา“หนี้เสียที่อยู่อาศัย”พุ่ง จี้รัฐลดภาษีฯพยุงปิดกิจการ

นายกสมาคมอสังหาฯ ชี้โควิดลากยาวจุดเสี่ยงอสังหาฯไปต่อไม่ไหว หลังยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง50% แนะรัฐ“ลดภาษีโอนซื้อขายกิจการ”พยุงปิดกิจการ ถูกเจ้าหนี้ขายทอดตลาด ขณะ “เครดิตบูโร” เตือนจับตาหนี้ครัวเรือนพุ่ง กระทบหนี้ที่อยู่อาศัย

วานนี้ (23 ก.ย.) ในงานสัมมนา “กรุงเทพจตุรทิศ : อสังหาฯฝ่าคลื่นเศรษฐกิจวิกฤตินี้ยาวแค่ไหน..?” โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผู้เกี่ยวข้องหลายรายมาร่วมเปิดมุมมองฝ่าวิกฤติ จากโควิดลามโลก

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า โควิดทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เผชิญความเสี่ยง ความผันผวน มากขึ้น โดยมีบางรายเริ่มประสบปัญหาหนี้ เงินทุนหมุนเวียน ที่เกิดจากการที่สถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ (Reject) เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขาย และยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทอสังหาฯ เริ่มลดรายจ่ายด้านต่างๆ รวมไปถึงการลดพนักงาน จนในที่สุดอาจจะมีบางรายต้องปิดกิจการ โดยเฉพาะบริษัทฯที่เน้นตลาดที่อยู่อาศัย ราคาต่ำกว่า3ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งมียอดปฏิเสธสินเชื่อสูง ขณะที่โดยรวมทั้งตลาดยอดปฏิเสธสินเชื่อเฉลี่ยสูงถึง 50%

โควิดลากยาวจุดเสี่ยงอสังหาฯ

เขาย้ำว่า สิ่งที่น่าห่วงคือ ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์การติดเชื้อโควิดได้ว่า จะไปถึงจุดสิ้นสุดเมื่อใด ทำให้นักพัฒนาอสังหาฯหลายรายไม่สามารถอยู่รอดในวิฤติ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงรายใหญ่บางราย ที่มีบางโครงการเริ่มไม่สามารถพัฒนาต่อได้
หมดพักหนี้คาดรีเจ็คพุ่ง

“ครั้งนี้พูดยากและโหดที่สุด บางรายเริ่มลดพนักงาน น่าห่วงว่าสถานการณ์จะแย่ลง อาการเหมือนมะเร็งที่ค่อยๆ รุกลามในภาวะที่ไม่รู้ว่าจะโควิดจะจบเมื่อไหร่ และเพื่อนจะอยู่รอดครบไหม เพราะหลังจากหมดมาตรการพักชำระหนี้ จะทำให้ผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในรายที่มีหนี้เดิม ถูกปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายใหม่ และยอดโอนเริ่มลดลง อีกทั้งราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยไม่สอดคล้องกับกำลังซื้อของคน จึงส่งผลให้หลายรายอาจต้องปิดกิจการ”